Home Article Cloud Computing เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานและงบประมาณ

Cloud Computing เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะกับงานและงบประมาณ

1091
0

บทความโดย : กิตติ ภูวนิธิธนา

เทคโนโลยี Cloud Computing ไม่ใช่เรื่องใหม่เสียทีเดียว แต่กำลังเป็นเรื่องที่มีความสำคัญและใกล้ชิดเรามากขึ้นทุกวัน ไว่ว่าจะเป็นบุคคลหรือว่าองค์กร เนื่องจาก Cloud Computing มีข้อดีหลายประการและในขณะเดียวกันเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตก็มีศักยภาพมากขึ้นด้วย

Cloud Computing คืออะไร

Cloud Computing ก็คือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีหน่วยประมวลผลและฮาร์ดดิสก์ตลอดจนซอฟต์แวร์เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่เราใช้งานกันทั่วไป แต่สิ่งต่างกันคือ Cloud Computing เป็นระบบคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่เรียกว่าอภิมหาคอมพิวเตอร์ก็คงจะได้ เพราะต้องรองรับการใช้งานของผู้คนจำนวนมาก และไม่ใช่คอมพิวเตอร์ที่จะหน่ายให้ใช้งานเป็นเครื่องๆ แล้วยกไปใช้งานที่บ้านหรือสำนักงาน แต่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งอยู่ในศูนย์คอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ ในการใช้งานผู้ใช้สามารถใช้พื้นที่เก็บข้อมูลหรือ Cloud Storage หรือซอฟต์แวร์ต่างๆ Software as a Service ได้โดยการเชื่อมต่อกับระบบผ่านอินเทอร์เน็ต

จะว่าไปแล้วไม่เพียงการใช้งานสำหรับองค์กรเท่านั้น การใช้งานส่วนบุคคลทั่วๆ ไป Cloud Computing ก็มีความสำคัญและในขณะนี้ก็มีบทบาทในชีวิตของใครหลายๆ คนแล้วไม่น้อยก็มาก แต่บางคนอาจจะไม่รู้ตัว Cloud Computing ที่อยู่รอบๆ ตัวเราในการใช้งานทั่วๆ ไป ก็เช่น Google Drive หรือ Dropbox ถือว่าเป็น Cloud Computing ประเภท IaaS หรือ Infrastructure as a Service ซึ่งอยู่ในส่วนการให้บริการเกี่ยวกับโครงสร้างของระบบคอมพิวเตอร์ เช่น พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ Cloud Computing นั่นเอง ในส่วนของซอฟต์แวร์ก็มีไม่น้อยที่เราใช้งานกันอยู่ เช่น Google Doc หรือ Google Sheet เป็นต้น ถ้าบอกว่าพวกการใช้งานเอกสารออนไลน์ต่างๆ ที่ไม่ต้องลงโปรแกรมบนคอมพิวเตอร์หลายคนอาจจะร้อง อ้อ เพราะคุ้นเคยมากกว่า

ตัวอย่างการใช้งาน Cloud Computing ที่กล่าวมานั้นถือว่าเป็นการใช้งาน Cloud Computing ในลักษณะของ Public Cloud ซึ่งมีข้อดีคือ ใช้งานง่าย สะดวก มีการใช้งานแพร่หลาย และหลายๆ บริการก็ให้ใช้งานได้ ฟรี!

ก่อนที่จะเขียนถึง Cloud Computing อื่นๆ ขอสรุปภาพรวมให้เข้าใจก่อนว่า Cloud Computing มี 3 รูปแบบคือ…

– Public Cloud ตามที่ได้อธิบายไปแล้วว่ามีข้อดีหลายประการ แต่มีข้อเสียที่สำคัญโดยเฉพาะการใช้งานสำหรับองค์กรคือ เรื่องความปลอดภัย

– Private Cloud ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าส่วนตัว มีความปลอดภัยมากกว่า มีความยืดหยุ่นเพราะตั้งค่าการใช้งานได้เองตามที่ต้องการ แต่ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่า

– Hybrid Cloud ไม่ใช่รูปแบบของ Cloud Computing ทางกายภาพ แต่เป็นการประยุกต์ใช้งาน เป็นแนวทางการใช้งานสำหรับองค์กรขนาดเล็กที่มีงบประมาณในส่วนนี้ไม่มากนัก

ถ้าเป็นการใช้งานทั่วไปเพื่อเก็บไฟล์งานไฟล์เอกสารที่ไม่ได้เป็นความลับอะไรมากนัก หรือในส่วนของซอฟต์แวร์เป็นซอฟต์แวร์เพื่อการทำงานเอกสารทั่วๆ ไป และโดยเฉพาะเป็นการใช้งานส่วนตัว และอาจจะมีการแชร์กับผู้อื่นบ้างแต่ก็เป็นการแชร์ระหว่าง User ด้วยกัน แชร์ไฟล์งานหรือไฟล์ภาพกับเพื่อน เป็นต้น การใช้งานลักษณะนี้ ลำพังแค่ Public Cloud ทั่วๆ ไปก็เพียงพอ แค่มองหาและรู้จักใช้งานเครื่องมือที่มีอยู่ให้ดีก็สามารถใช้และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ถ้าเป็นองค์กรโดยเฉพาะองค์กรขนาดกลางขึ้นไป มีรูปแบบการใช้งานเป็นของตัวเอง มีผู้ใช้งานร่วมกันภายในเครือข่ายจำนวนมาก และต้องการระบบที่มีความปลอดภัยคงต้องใช้งานแบบ Private Cloud แต่หากงบประมาณมีจำกัดและยังไม่จำเป็นต้องใช้ระบบที่ใหญ่มากนัก เป็นลักษณะของการเริ่มต้นนำเทคโนโลยี Cloud Computing มาปรับใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจ อาจเริ่มต้นด้วย Hybrid Cloud การทำงานบางอย่างที่ไม่ได้เน้นเรื่องความปลอดภัยอาจเริ่มต้นจากการใช้ Public Cloud ก่อน ในขณะที่งานสำคัญๆ และเป็นงานที่ต้องการความปลอดภัยทั้งในเรื่องของการเข้าถึงและการรั่วไหลของข้อมูลในส่วนนี้อาจจะเริ่มต้นจาก Private Cloud ที่เป็นระบบเล็กๆ ก่อน แล้วค่อยขยับขยายในภายหลัง