การทำวิดีโอเพื่ออัปโหลดทาง YouTube เป็นช่องทางการทำคอนเทนต์ที่สำคัญในยุคนี้ไม่ว่าจะเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจในการแนะนำสินค้า เพื่อนำเสนอผลงานของตัวเองสำหรับผู้ที่มีความสามารถด้านดนตรี หรือเพื่อใช้เป็นช่องทางในการทำสื่อเช่น YouTuber ก็ตามที ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า YouTube มีอานุภาพในการสร้างการรับรู้มากจริงๆ
ในกระบวนการผลิตวิดีโอไม่ว่าจะเพื่อวัตถุประสงค์ใดก็ตาม มีองค์ประกอบที่สำคัญๆ ในการทำงานคือ การถ่ายทำที่ต้องมีกล้องและอุปกรณ์บันทึกเสียง ซึ่งมีความหลากหลายสุดแล้วแต่ว่าใครจะสะดวกแบบไหน และองค์ประกอบอีกอย่างหนึ่งคือ “การตัดต่อ” ในส่วนของการตัดต่อนี้เรื่องของเทคนิควิธีการหรือลูกเล่นในการตัดต่อก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละคนเช่นกันว่าจะสะดวกหรือต้องการนำเสนอแบบไหน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนที่จะทำวิดีโอคอนเทนต์ต้องตระหนักเหมือนกันคือ เรื่องของเพลงหรือ Sound Effect ที่จะใช้ในวิดีโอ จะต้องตรวจสอบเรื่องของลิขสิทธิ์ให้ดี
YouTube ให้ความสำคัญในเรื่องลิขสิทธิ์อย่างมากในทุกๆ ด้าน สำหรับเรื่องของเพลงหรือ Sound Effect ที่ใช้ในวิดีโอ ทาง YouTube จะระบบตรวจสอบที่รวดเร็วและค่อนข้างแม่นยำ หลังจากที่เราอัปโหลดวิดีโอขึ้นสู่ระบบของ YouTube การตรวจสอบจะเริ่มขึ้นทันที หากพบว่าเพลงหรือ Sound Effect มีลิขสิทธิ์จะมีการแจ้งเตือนให้เข้าของวิดีโอทำการแก้ไขทันที
การแก้ไขวิดีโอที่มีการตรวจพบว่ามีปัญหาเรื่องของลิขสิทธิ์พลงหรือ Sound Effect สิ่งที่ทำได้คือการลบเพลงหรือ Sound Effect ที่มีปัญหาออก ส่วนใหญ่จะเป็นเพียงช่วงใดช่วงหนึ่งของวิดีโอ ซึ่งหากเลือกที่จะลบพลงหรือ Sound Effect ในช่วงนั้นออกไปเลย วิดีโอช่วงนั้นก็จะไม่มีเสียงทำให้ไม่น่าสนใจ
ถ้าไม่อยากให้วิดีโอเงียบไปเฉยๆ เครื่องมือจัดการวิดีโอใน Video Manager ของ YouTube ก็ยังเปิดโอกาสให้เราหาพลงหรือ Sound Effect ใส่เข้าไปแทนที่ได้ แต่บางทีพลงหรือ Sound Effect ที่ YouTube มีให้เลือกก็อาจจะไม่สอดคล้องกับเนื้อหาสักเท่าไร อีกทั้งการที่จะต้องมานั่งหาพลงหรือ Sound Effect ใหม่ก็เป็นสิ่งที่เสียเวลามาก
อีกวิธีที่ทำได้คือ ลบวิดีโอที่มีปัญหา กลับมาแก้ไขแล้วค่อยอัปโหลดใหม่ แต่ก็เป็นเรื่องที่เสียเวลาเช่นกัน อีกทั้งยังน่าเสียดายคนที่เข้ามาดูวิดีโอดังกล่างแล้ว โดยเฉพาะ Link ของวิดีโอที่แชร์ไปในช่องทางต่างๆ หากลบวิดีโอนั้นออกก็เท่ากับว่ากลายเป็น Link เสีย ทำให้เสียโอกาสที่อีกหลายๆ คนจะเข้ามาดูไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้นในขั้นตอนของการตัดต่อวิดีโอควรตรวจสอบเรื่องของลิขสิทธิ์ “เพลง และ Sound Effect” ให้ดี
ช่องทางหาเพลงหรือ Sound Effect
สำหรับคนที่พร้อมจะเสียเงินเพื่อจ่ายค่าลิขสิทธิ์เพลงคงไม่มีปัญหาอะไรสักเท่าไร แต่สำหรับคนที่ไม่สะดวกจะเสียเงิน สนใจเพลงและ Sound Effect ที่สามารถใช้งานได้ฟรี ลองมาดูกันว่าจะหาจากช่องทางไหนมาใช้ได้บ้าง
– ใช้เพลงและ Sound Effect ที่มีให้ในโปรแกรม คนที่ตัดต่อไม่ว่าจะมือเก่าหรือมือใหม่คงรู้อยู่แล้ว เพราะไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมตัดต่อตัวไหนหรือแม้แต่ในแอปลพิเคชั่นก็ตาม จะมีเพลงและ Sound Effect ให้ใช้งานอยู่แล้วประมาณหนึ่ง สามารถใช้ได้ฟรี! ไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์แน่นอน แต่ก็จะมีข้อจำกัดอยู่ว่าบางทีเพลงและ Sound Effect ที่โปรแกรมนั้นๆ มีให้ไม่ค่อยสอดคล้องกับเนื้อหาสักเท่าไร ถ้าใครรู้สึกว่าเพลงที่โปรแกรมมีให้ไม่ค่อยโดนใจสักเท่าไร อยากจะหาเพลงหรือ Sound Effect ใหม่ๆ มาใช้บ้าง
– ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ สามารถเข้าไปค้นหาได้ใน Google จะพบว่ามีเพลงและ Sound Effect ให้เลือกใช้เยอะมากๆ ถ้าจะใช้ของฟรีก็ระบุคีย์เวิร์ดไปเลยชัดๆ เช่นคำว่า “Sound Effect Free Download” จะมีเว็บไซต์ที่เป็นแหล่งดาวน์โหลดที่แนะนำปรากฏขึ้นมามากมาย ข้อควรระวังในการหาเพลงและ Sound Effect จากช่องทางนี้ ควรตรวจสอบให้ดีว่าเพลงที่มีคนแนะนำหรือนำมาปล่ยอให้ดาวน์โหลดนั้นไม่มีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์จริงๆ ไม่ใช่ว่าคนที่เอามาปล่ยอให้ดาวน์โหลดได้ฟรีไปเอาของที่มีลิขสิทธิ์มาปล่อย ต้องเลือกใช้อย่างระมัดระวัง
– เลือกและใช้เพลงจาก Audio Library ของ YouTube มีทั้งเพลง (Free Music) และ Sound Effect ให้เลือกใช้พอสมควร เข้าไปที่ www.youtube.com/audiolibrary/music ว่างๆ ก็เข้าไปนั่งเลือกเพลงและดาวน์โหลดมาไว้ในคอมพิวเตอร์ เวลาจะใช้จะได้ไม่เสียเวลามาก ทั้ง Free Music และ Sound Effect ที่มีอยู่ใน YouTube ทั้งหมดใช้งานได้ฟรีจริงๆ แต่มีเงื่อนไขในการใช้งานเล็กน้อยในบางกรณีคือ ถ้าด้านหลังรายการเพลงหรือเอฟฟ็กต์ใดมีไอคอนรูปคนแสดงอยู่ หากนำเพลงหรือเอฟเฟ็กต์นั้นไปใช้ ต้องให้เครดิตแก่ศิลปินต้นฉบับในคำอธิบายวิดีโอพร้อมระบุข้อมูลและลิ้งก์ที่เกี่ยวข้องให้ด้วย แต่ถ้าไม่มีไอคอนรูปคนก็ใช้งานได้โดยไม่ต้องระบุและไม่ต้องกังวลใดๆ
